Life Cycle Cost สำหรับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมคืออะไร
“คุณมีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับเจ้า Life Cycle Cost นี้”
ภาพรวมที่ชัดเจนของค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมเปรียบเทียบกับบ้านหรือรถยนต์ที่ซื้อ เมื่อซื้อบ้าน เงินส่วนใหญ่คือการลงเงินในการสร้างตัวบ้าน จากนั้นค่าใช้จ่ายพื้นฐานรายเดือนของการลงทุนนี้คือค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าติดตั้งอินเตอร์เนตหรือสายโทรศัพท์ ค่าบำรุงส่วนกลาง และค่าบำรุงรักษา
กลับมาที่ Life Cycle Cost มีผลกระทบอย่างไรบ้างกับการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ถ้าให้พูดง่ายมันก็ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของผู้ลงทุนในการผลิต หัวใจสำคัญของเจ้า Life Cycle Cost มีอะไรบ้าง
- ค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม
- ค่าติดตั้ง ขนย้าย
- ค่าบำรุงรักษา (ค่าบริการและอะไหล่ของเครื่องอัดอากาศ)
- ค่าไฟฟ้าในการทำงานของปั๊มลมที่เป็นตัวหลักและค่าใช้จ่ายที่เป็นสัดส่วนที่มากที่สุดถ้าไม่มีการวิเคราะห์และดูแลระบบ
คุณรู้ไหมว่าสัดส่วนของ Life Cycle Cost มีพื้นฐานมาจากอะไรบ้าง ความรู้เบื้องต้นในส่วนของระบบอากาศอัดที่ว่าด้วย Life Cycle Cost สิ่งสำคัญมาจากค่าไฟฟ้าที่เกิดจากการใช้พลังงานในการผลิตลมอัด แบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์คือ
- ค่าพลังงานในการทำงานของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม ~76%
- เงินลงทุนสำหรับซื้อเครื่องอัดอากาศ, ติดตั้งระบบท่อและระบบควบคุม ~14%
- ค่าบำรุงรักษารวมถึงอะไหล่ค่าแรงตลอดอายุการใช้งานเครื่อง ~10%
นั่นคือเหตุผลที่ Atlas Copco มักกล่าวว่า "อากาศฟรีแต่อากาศอัดไม่ฟรี!" ติดตามบล็อกเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมของเรา คุณสามารถ “เพิ่มเงิน” โดยการประหยัดการสูญเสียอากาศอัดในระบบอากาศอัด หากคุณต้องการเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องอัดอากาศ *Compressor Blogs* แค่นี้เอง แต่ถ้าอยากรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ก็ติดตามได้ที่นี่ compressor wiki
ในระหว่างการดำเนินงานของอากาศอัด คุณรู้หรือไม่ว่าค่าใช้จ่ายพลังงานประเภทใดที่สามารถสูญเสียได้ในช่วงเวลานั้น? การสูญเสียพลังงานจะส่งผลต่อกำไรและคุณภาพของผลิตภัณฑ์สุดท้ายของคุณ การให้ความสำคัญที่ถูกต้องสามารถสร้างโอกาสให้คุณหาเงินได้มากขึ้น
- Starting Power คือกำลังไฟฟ้าขณะstart ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของ starter
- Load Power คือกำลังไฟฟ้าที่ใช้ขับมอเตอร์และสกรูเพื่อให้เกิดปริมาณลมและแรงดันเป็นไปตามที่กระบวนการผลิตต้องการ
- Unload Power คือ กำลังไฟฟ้าที่ใช้ขับมอเตอร์และสกรู ในขณะที่ inlet vale ของเครื่องปิด สภาวะนี้เครื่องอัดอากาศจะไม่มีการจ่ายลมอัด ทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็น
- Blow off losses คือ การปล่อยหรือระบายอากาศอัดออกจากเครื่อง เพื่อไม่ให้มีลมอัดค้างอยู่ในเครื่อง เป็นสภาวะก่อนเครื่องที่กำลังจะเข้าสู่โหมด Unload 100% จะเห็นได้ว่าถ้าเราสามารถลดค่าไฟของเครื่องอัดอากาศได้ถ้าเราสามารถลด
- Starting Power
- Unload Power
- Blow off loss Power
ซึ่งเครื่องอัดอากาศที่สามารถลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็นได้คือ เครื่องอัดอากาศแบบ VSD (Variable Speed Drive) compressor ซึ่งต้องเป็น Real VSD จริงๆ เท่านั้น VSD ปลอมๆ แบบที่ไม่ได้แก้ไขเรื่องการ unload หรือ Blow off loss อาจไม่คุ้มกับการลงทุน
- Pressure drop คือ แรงดันตกคร่อมในระบบอัดอากาศ ซึ่งในทุกๆ แรงดันที่เพิ่มขั้น 1 bar(g) นั่นหมายถึงเกิดการสิ้นเปลืองพลังงานมาขึ้นถึง 7% หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับการวางระบบ ทำให้เราสูญเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
Air Leakages หรือการหาจุดรอยลมรั่วในระบบอัดอากาศ ในบทความนี้ “เสียเงินไปกับรอยรั่วของระบบอัดอากาศใช่ไหม” คุณจะทราบว่าปัญหาของรอยรั่วที่เกิดในระบบอัดอากาศของเครื่องปั๊มลมทำให้คุณเสียเงินจำนวนไม่น้อย จากลมอัดที่รั่วออกไป 10-30% อ่าน Compressor blog ของเราแล้วเอาเทคนิคในการลดค่าพลังงานในระบบอัดอากาศไปใช้กับเครื่องอัดอากาศของคุณ
การทำงานและตรวจสอบง่ายๆ ในการหาปริมาณรอยท่อลมรั่วสำหรับระบบอัดอากาศ หรือการประหยัดค่าพลังงานในช่วงเวลาของ Unload power ได้ง่ายๆ โดยที่คุณอาจไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือลงทุนเลย แต่ถ้าตรวจพบจุดรั่วโรงงานต้องเสียอะไรบ้าง คุณมีค่าใช้จ่ายเพียงค่าแรงที่คำนวนตามสัดส่วนของปริมาณพื้นที่ที่เราตรวจสอบให้ค่ะ
แต่สิ่งที่จะได้เพิ่มคือรูปแบบการรายงานผลของรอยรั่วและช่วงเวลาที่เสียค่าพลังงานไป ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาฟรี! สำหรับการช่วยลดค่าพลังงานในระบบเครื่องอัดอากาศหรือระบบการติดตั้งท่อลม สิ่งสำคัญของท่อลมรั่วคือการรั่วไหลที่ไม่ควรเกิน 5% เมื่อเทียบกับการใช้พลังงานในโรงงานที่เหมาะสม
ทีมบริการ Atlas Copco ได้ช่วยเหลือลูกค้ามากกว่า 50 รายให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 1500kW (ประมาณ 8.64 ล้านบาทสำหรับค่าพลังงาน) ภายในระยะเวลา 2 เดือนเท่านั้น
ตัวอย่างจากเรื่องจริงของลูกค้าที่เครื่องทำงาน 24 ชั่วโมงต่อ 7 วัน หมายถึงใช้พลังงาน 8,760 ชม./ปี
- เครื่องทำงาน 24 ชม. X 365 วัน = 8,760 ชม./ปี
- ระยะเวลา 2 เดือน 24 ชม. X 60 วัน = 1,440 ชม.
- คำนวนการประหยัดพลังงาน 1,440 x 1,500 = 2,160,000 kWh
- ค่าไฟ 3.5 – 4 บาท/kWh (ขึ้นอยู่กับพื้นที่โรงงาน)
- คุณสามารถประหยัดเงินได้ประมาณ 2,160,000 x 4 = 8,640,000 บาท / 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีของธุรกิจ การลงทุนเล็กน้อยสามารถลดต้นทุนโดยรวม (Total cost of ownership) หรือ Life Cycle Cost แต่คุณสามารถได้ต้นทุนคือนในระยะเวลาอันสั้น