ระบบอัดอากาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Go Green) จะช่วยให้คุณประหยัดเงินด้วยการใช้พลังงานที่น้อยลง เพราะค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมนั้นถือเป็นจำนวนใหญ่ของค่าใช้จ่ายในระบบอัดอากาศทั้งหมด การลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้จึงส่งผลต่อต้นทุนการผลิตของคุณ

เรียนรู้การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม

ทำให้ระบบอัดอากาศมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่การซื้อเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมใหม่เท่านั้น การปรับปรุงระบบอัดอากาศที่มีอยู่ให้เหมาะสม จะช่วยให้ธุรกิจมีทางเลือกในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และต้องใส่ใจกับต้นทุนของอากาศอัด  หากละเลยจะทำให้ระบบอัดอากาศไม่มีประสิทธิภาพและเกิดค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา

นั่นคือเหตุผลที่ระบบอัดอากาศควรได้รับการตรวจสอบและควบคุมอย่างรอบคอบ ตัวอย่างง่ายๆ คือ แรงดันที่สูงขึ้นหมายถึงการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉลี่ยแล้ว แรงดันที่เพิ่มขึ้น 1 บาร์ ส่งผลให้ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 8% อย่างรวดเร็ว

หลายบริษัทพลาดเพียงแค่เพิ่มแรงดันอากาศอัดเมื่อเกิดแรงดันตกในระบบอัดอากาศ  แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่าย แต่ก็เป็นการเพิ่มต้นทุนที่ราคาแพงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างต่อไปคือ รอยรั่วขนาด 2 มิลลิเมตรที่ความดัน 8 บาร์ อาจทำให้ธุรกิจของคุณต้องเสียเงินหลายแสนบาทต่อปี นั่นคือเหตุผลที่การตรวจสอบสาเหตุของแรงดันตกนั้นสำคัญมาก ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการรั่วไปจนถึงระบบท่อที่มีขนาดต่ำกว่ามาตรฐาน  อุปกรณ์เก่า หรือตัวกรองที่อุดตัน เป็นต้น

ซึ่งหมายความว่าควรทราบเสมอว่าต้องใช้แรงดันมากเพียงใดและระบบอาจสูญเสียแรงดันที่ใด ตามหลักการทั่วไป เครือข่ายอากาศอัดควรได้รับการออกแบบเพื่อให้การสูญเสียแรงดันระหว่างเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมและอุปกรณ์ใช้งานอากาศอัดที่อยู่ห่างไกลที่สุดไม่ควรเกิน 0.1 บาร์