การติดตั้งท่อลม Airnet ให้ทำงานร่วมกับปั๊มลมเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
ท่อลม Airnet คืออะไร
ระบบท่อส่งลมอัด (Compressed Air Piping System) ที่ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการลำเลียงลมอัด (Compressed Air) ก๊าซไนโตรเจนในโรงงานอุตสาหกรรมและกระบวนการผลิตต่างๆ
การเดินท่อลม Airnet สำคัญอย่างไร
การเดินท่อลม Airnet เพื่อให้ทำงานร่วมกับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหากติดตั้งไม่ถูกวิธีอาจก่อให้เกิดปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาลมรั่ว, pressure drop (ลมตก), การปนเปื้อน หรือ ปัญหาเครื่องขัดข้องจนเสียหายต่อระบบการผลิต ดังนั้น คุณจึงต้องมีการออกแบบระบบท่อลมให้เหมาะสมกับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมและช่วยประหยัดหลังงานในโรงงานได้แน่นอน
ทำไมต้องใช้ท่อลมแบบอะลูมิเนียมสำหรับระบบลมอัดในอุตสาหกรรม
การออกแบบระบบท่อลม Airnet
การออกแบบระบบท่อลมที่ดีต้องดูองค์ประกอบหลายๆอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็น
ขนาดท่อลม
การจัดตำแหน่งวางท่อลม
การเดินท่อ Header
1. ขนาดท่อลม Airnet
การเลือกขนาดท่อลม Airnet ให้เหมาะสมกับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เพราะหากเลือกท่อลมผิดขนาด อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา ไม่ว่าเป็น pressure drop (ลมตก) ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมต้องทำงานหนักมากขึ้น
หากลมตกมาก ๆ อาจถึงขั้นทำให้ลมไม่เพียงพอต่อการใช้งานของเครื่องจักรได้ และหากท่อลม Airnet มีขนาดเล็กเกินไป ความเร็วของลมในท่อจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ลมในวาล์วและข้อต่อเกิดความแปรปรวนจนอ่านแรงดันที่แม่นยำได้ยาก
สมมุติว่าเรามีเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม 25hp สามารถผลิตลมได้ 100 cfm ที่แรงดัน 100 psi หากเราเพิ่มขนาดท่อลมจาก 1” เป็น 1.5” จะช่วยลดการเกิด pressure drop (ลมตก) ได้เป็นอย่างมาก และสามารถประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น 1 - 1.5% นอกจากนี้ขนาดของท่อลมที่เหมาะสมยังช่วยลดจำนวนข้อต่อและข้องอ ซึ่งช่วยลดการรั่วไหลของลม compressed air leakage ที่อาจเกิดขึ้นตามจุดเชื่อมต่อต่างๆ ช่วยประหยัดเวลาในการถอดข้อต่อ และประหยัดเงินให้แก่ผู้ใช้งานได้อีกด้วย
2. การวางผังท่อลม Airnet
การวางผังท่อลม Airnet นั้น เป็นสิ่งสำคัญมากพอ ๆ กับการเลือกขนาดหรือเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อลม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของลม Compressed air และลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
การออกแบบการเดินท่อลม Airnet ที่ต้องมีจุดแยกสำหรับนำไปใช้งานหลายจุดนั้น ต้องคำนึงถึงสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การทำให้มีแรงดัันเท่ากันตลอดทั้งโรงงาน
การเดินท่อแบบเดี่ยว โดยมีจุดแยกสำหรับนำไปใช้งานหลายจุด ส่งผลให้้จุดใช้งานที่ไลน์ผลิตได้รับ airflow ลดลง นอกจากนี้ตัวแปลงความดัน (pressure transducers) ที่ติดตั้งอยู่ในระบบอาจอ่านค่าความดันได้หลายค่า ขึ้นอยู่กับว่าตัวแปลงนั้นติดตั้งอยู่ที่จุดไหน ดังนั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของลม ผู้ใช้งานควรวางผังท่อลมเป็นรูปแบบวงแหวน (ring) เพื่อให้มี airflow อย่างสม่ำเสมอ และทั่วถึงทั้งโรงงาน
3. การเดินท่อ Header
4. การตรวจสอบการทำงานของท่อลมแบบออโต้โดยใช้ Smartlink Airnet มีประโยชน์อย่างไร
เชื่อมต่อโรงงานของคุณด้วย SMART Airnet คืออะไร?
เพื่อให้ทำงานเป็นระบบอัจฉริยะ โรงงานจำเป็นต้องมีข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งเซนเซอร์ SMART AIRnet จะให้คำตอบในการรวบรวมข้อมูลนี้จากทั่วทั้งโรงงานของคุณ
SMART AIRnet จะเพิ่มเซนเซอร์อัจฉริยะและไร้สายให้กับโครงข่ายอากาศอัดและเชื่อมต่ออุปกรณ์เหล่านี้กับ SMARTLINK ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจัดการปริมาณการไหลของอากาศอัดได้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ตัวเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมซึ่งเป็นหัวใจหลักของระบบไปจนถึงจุดใช้งาน และจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือให้กับทุกส่วนของการติดตั้งระบบอากาศอัดของคุณได้มากยิ่งขึ้น
สนใจแอด LINE เพื่อติดต่อสอบถาม