คุณจะรู้ได้ยังไงว่า Air Dryer แบบไหนถึงเหมาะกับเครื่องอัดลมหรือปั๊มลมของคุณ

ความชื้นที่เกิดในเครื่องอัดลมหรือปั๊มลมนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าปฏิบัติอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันและหลีกเลี่ยงความเสียหายของ Pneumatic, Air motors, วาล์วและส่วนประกอบอื่นๆ รวมถึงหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์ในสายงานผลิตได้

เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าบำรุงรักษาและการ Shutdown ของเครื่อง ขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้ระบบอัดอากาศนั้นแห้ง สะอาด และเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

สิ่งสำคัญในการเลือก Air Dryer ให้เหมาะสมกับงานที่ใช้นั้นขึ้นอยู่กับระดับความต้องการของคุณภาพอากาศและลมที่แห้งเพื่อใช้ในการอัด

Air Dryer เป็นส่วนประกอบเพิ่มเติมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับโรงงานในระบบอุตสาหกรรม เช่นการใช้ Refrigerated Air Dryer หรือ Desiccant Dryer ในห้องปฎิบัติการ (Laboratories), งานด้านระบบการพิมพ์, และอุปกรณ์ Pneumatic ต่างๆที่

เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะความแห้งของลมเป็นส่วนประกอบสำคัญจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับงานสายอุตสาหกรรม

สำหรับการใช้งานที่ต้องใช้อากาศแห้ง แต่ยังไม่ถึงจุด Critical Dew Point นั้น Refrigerated Dryers เหมาะจะเป็นตัวเลือกที่ดีและเพื่อสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม และการเลือก non-cycling หรือ cycling นั้นขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการของคุณ

Refrigerated dryer แบบ non-cycling เป็นตัวเริ่มต้นที่ดีสำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาตัวช่วยในการพัฒนาคุณภาพอากาศอัดให้เหมาะสำหรับงบประมาณที่จำกัด เพราะ non-cycling เป็นเครื่องที่ใช้แรงอัดในการทำความเย็นอย่างต่อเนื่องและใช้แก๊สที่ร้อนในการส่งผ่านไปยังวาล์วเพื่อเปลี่ยนสารทำความเย็นแม้ในสภาวะที่โหลดน้อยกว่า ซึ่งในเครื่อง Refrigerated air dryer อุณหภูมิของ Compressed Air จะต่ำกว่า 3 C° หรือ 37 F° ซึ่งช่วยให้น้ำสามารถแยกตัวออกจากอากาศได้ ทำให้คุณภาพของลมเพียงพอต่อการใช้งานในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ Refrigerated ชนิด non-cycling air dryers มีความเรียบง่ายและเชื่อถือได้เนื่องตัวเลือกต่างๆ จะมีไม่มากนักทำให้สามารถลดความซับซ้อนในเรื่องการใช้งานออกแบบในระบบปฏิบัติงานได้

Air Dryer ชนิดนี้มีราคาไม่แพงมากเนื่องจากมีต้นทุนการลงทุนเริ่มแรกต่ำสุด แต่ยังให้อากาศอัดที่แห้งและสะอาด Refrigerated ชนิด non-cycling air dryer ติดตั้งและใช้งานง่ายทำให้ได้ประสิทธิภาพ, คุณภาพและผลลัพธ์ที่ต้องการ Refrigerated ชนิดนี้เหมาะกับ Rotary Screw Compressor ในขณะที่แบบเครื่องมีอุณหภูมิสูงเป็นที่ต้องการและแนะนำให้ใช้กับ Piston Air Compressor Refrigerated ชนิด Non cycling คือการที่เครื่องจะทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่คำนึงถึงปริมาณอากาศที่บีบอัดเข้ามาในส่วนของการทำลมแห้ง ซึ่งหมายความว่าการใช้พลังงานที่โหลดเต็มที่หรือมีโหลดต่ำนั้นจะทำให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพถ้าการประหยัดพลังงานไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในอันดับต้นและคุณต้องการใช้ Air Dryer ที่เรียบง่ายที่สามารถสร้างจุด Dew point ที่ต่ำที่สุดนั้น Refrigerated ชนิด non-cycling จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

มีความแตกต่างจาก Non-cycling ซึ่งจะมีการใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมเช่น ตัวควบคุมความร้อนหรือตัวควบคุมความถี่ที่จะช่วยให้เครื่องทำลมแห้งสามารถเปิดและปิดอัตโนมัติเพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้ลมที่แท้จริง ทำให้สามารถใช้พลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เครื่องทำลมแห้งแบบโรตารี่นั้นมาพร้อมกับการออกแบบที่เน้นให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โดย Cycling Dryer นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า Non-cycling แค่ช่วงแรกเท่านั้น แต่ Cycling จะช่วยให้คุณประหยังค่าซ่อมบำรุงรักษาและมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น Cycling Dryer นั้นมีความน่าเชื่อถือในเรื่องของการประหยัดพลังงาน, หมดกังวลเรื่อง Pressure Drop, ติดตั้งง่าย, ขนาดของเครื่องมีขนาดเล็กและเสียงรบกวนต่ำ เนื่องจากค่าใช้จ่ายของ Cycling Dryer นั้นมีราคาสูงกว่า Non-Cycling แต่มีประโยชน์มากต่อระบบลมอัด ถ้าเราพิจารณาจากเรื่องค่าใช้จ่ายและอายุการใช้งานนั้น

ข้อดีคือมีขนาดเล็กและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบอัดอากาศในงานอุตสาหกรรม เพราะอากาศที่แห้งนั้นเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่ง โดยปัจจุบันผู้ผลิตบางรายเสนอตัวเลือกแบบรวมเครื่องทำความเย็นไว้ในเครื่องอัดลมหรือปั๊มลม Integrated dryer จะช่วยแยกความชื้นออกจากอากาศเพื่อลดปัญหาด้านการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตัวเลือกนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการติดตั้ง และให้คุณภาพของลมตรงกับความต้องของคุณ

Pressure Dew Point เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจในเลือก Compressed Air Dryers ตามที่ได้พูดถึงก่อนหน้านี้ Refrigerated Air Dryer นั้นมี Pressured Dew Point ต่ำกว่า 3 C° (37 F°) เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนในใหญ่ที่ต้องการปริมาณลมตั้งแต่ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที อย่างไรก็ตามคุณต้องการลมอัดที่มีคุณภาพสูง เราจะมีการนำสารดูดความชื้นนั้นเข้าไปในระบบเพื่อเพิ่มคุณภาพของอากาศ

Regenerative Desiccant Air Dryer สามารถให้ความร้อนถึง -70 °C (-100 °F) ตามมาตรฐาน ทำให้ระบบอากาศอัดสามารถผลิตอากาศที่บริสุทธิ์และแห้งตามความต้องการของคุณ โดย Refrigerated Air Dryers ได้ใช้ Desiccant Beads ในการดูดซับความชื้นออกจากอากาศ โดยที่ความชื้นจะถูกดูดเข้ากับเม็ดสารโดยไม่เปลี่ยนองค์ประกอบของสารดูดความชื้น ดั้งนั้นกระบวนการ Regeneration จะเกิดขึ้นเมื่อเม็ดสารได้รับความชื้นจนถึงจุดอิ่มตัวร่วมกับความร้อนหรืออากาศบริสุทธิ์ โดยปัจจุบันเราจะนำสองส่วนไว้ด้วยกันหรือเรียกว่า Combination Dryer โดยออกแบบโครงสร้างเป็น Twin Tower โดยที่จะมีหนึ่งถังจะบรรจุสารดูดความชื้นเอาไว้

• Regenerative desiccant air dryers จะมี Pressured dew point ตั้งแต่ -20 ° C (-25 ° F), -40 ° C / F หรือ -70 ° C (-100 ° F) ความบริสุทธิ์ของอากาศเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใช้ในระบบอุตสาหกรรม ยิ่งคุณต้องการความบริสุทธิ์มากขนาดของ Air Compressor ก็จะใหญ่ตาม ซึ่งส่งผลให้มีการใช้พลังงานที่มากขึ้นและต้นทุนกระบวนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งนี้ยังรวมไปถึงราคาด้วยเช่นกัน

• Heatless หรือ heat regenerated desiccant air dryers จำเป็นต้องใช้อากาศบริสุทธิ์ประมาณ 16-25% โดยจะมีราคาคุ้มที่สุดแต่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุด ถ้าคุณตัดสินใจเลือก Heatless Desiccant Dryer คุณต้องคำนึงถึงปริมาณอากาศบริสุทธิ์และขนาดของ Air Compressor เพราะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในระบบ drying Heated purge air desiccant dryers มีทั้งแบบภายในและภายนอกเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ Drying ซึ่ง Desiccant air dryer ชนิดนี้จะทำการลดปริมาณของ Purge air ตามความต้องการของระบบ Tower regeneration ลงจนเหลือน้อยกว่า 10% เนื่องจากการออกแบบและความสามารถในการระบายอากาศให้ตรงกับความต้องการของระบบนั้นทำให้มีราคาที่สูงกว่า หากเปรียบเทียบกับ Heatless desiccant dryer แต่ให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่คุ้มค่าตลอดระยะเวลาการทำงาน

• External heated desiccant air dryers คือเมื่ออุณภูมิอากาศภายนอกสูงขึ้นเพื่อนำความร้อนไปไล่ความชื้นออกจากสารดูดความชื้นโดยใช้ความร้อนมาฟื้นฟูสภาพสารดูดความชื้นเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ โดยกระบวนการนี้ต้อง Purge air ที่ 0-4% โดยเฉลี่ย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดปริมาณ Purge air ของระบบ External heated desiccant air dryer เราสามารถนำ Air blower มาช่วยในการเพิ่มความร้อนของอากาศทำให้อากาศที่หมุนเวียนอยู่นั้นร้อนตลอดเวลา ซึ่งการนำ Air blower มาช่วยให้อากาศคงความร้อนนั้นเป็นตัวเลือกที่ถือว่ามีราคาสูงแต่หากเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด