ข้อพิจารณาด้านกฎระเบียบสำหรับการกรองในกระบวน
ในด้านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ควรตรวจสอบก่อนว่าตัวกรองในกระบวนการนั้นผลิตโดยบริษัทที่อย่างน้อยต้องผ่านมาตรฐานคุณภาพตาม ISO 9001
หากตัวกรองถูกนำไปใช้ในกระบวนการที่สัมผัสโดยตรงกับอาหารและเครื่องดื่ม จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายเพิ่มเติม เช่น ตัวกรองต้องผ่านการทดสอบตามข้อกำหนดของกฎระเบียบของสหภาพยุโรป ได้แก่ Regulation (EU) 1935/2004 และ Regulation (EU) 10/2011 และต้องมีการระบุว่า “เหมาะสำหรับการสัมผัสกับอาหาร” (Food Contact Compliant) เพื่อรับรองว่าไม่มีสารจากตัวกรองแพร่เข้าสู่อาหารระหว่างการใช้งาน
ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้แก่ ระเบียบข้อบังคับ REACH และ RoHS ของยุโรป ซึ่งรับรองว่าตัวกรองไม่มีสารที่จัดเป็น “สารที่น่ากังวลอย่างยิ่ง” (Substance of Very High Concern – SVHC) เช่น บิสเฟนอล (ระเบียบข้อบังคับของคณะกรรมาธิการ - EU 2024 /3190)
ภาพรวมของกฎระเบียบ REACH และ RoHS:
- REACH (การลงทะเบียน การประเมิน การอนุญาต และการจํากัดการใช้สารเคมี) รับรองว่าตัวกรองในกระบวนการปราศจากสารอันตรายที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์หรือสิ่งแวดล้อม
- RoHS (ข้อจํากัดของสารอันตราย) ทําให้ตัวกรองในกระบวนการปลอดภัยยิ่งขึ้นสําหรับระบบกรองของเหลวโดยการรับรองว่าไม่มีสารประกอบที่เป็นอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท หรือแคดเมียม
สุดท้าย ตามระเบียบข้อบังคับของสหภาพยุโรป 2023/2006 สิ่งสําคัญคือการตรวจสอบยืนยันว่าผู้ผลิตตัวกรองปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ดีในการผลิต (GMP) สําหรับวัสดุและวัตถุที่มีจุดประสงค์เพื่อสัมผัสกับอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ผลิตส่วนใหญ่ให้ใบรับรองความสอดคล้องหรืออ้างอิงเอกสารข้อมูลทางเทคนิคและโบรชัวร์เพื่อการตรวจสอบยืนยัน
ข้อควรพิจารณาทางเทคนิคสําหรับการเลือกตัวกรองในกระบวนการ
ในการเลือกตัวกรองในกระบวนการที่ถูกต้อง ก่อนอื่นจําเป็นต้องชี้แจงประเด็นพื้นฐานบางประการ:
- สิ่งที่ถูกกรองคืออะไร (ก๊าซ ไอน้ํา ของเหลว)
- ตัวกรองในกระบวนการต้องสัมผัสกับอุณหภูมิเท่าใดระหว่างการใช้งาน?
- ตัวกรองสัมผัสกับสารเคมีรุนแรงในระหว่างการใช้งานหรือไม่
เมื่อคุณตอบคำถามเหล่านี้ โปรดคำนึงว่าไส้กรองของเหลวบางประเภทอาจได้รับการทำความสะอาดด้วยสารเคมีหรือผ่านการฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำ (ที่อุณหภูมิสูงกว่า 120°C / 248°F) ด้วยเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการขายของเรามีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับระบบการกรองของเหลว และสามารถให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพในการเลือกโซลูชันของ Atlas Copco ที่เหมาะสมที่สุดตามข้อกำหนดของกระบวนการ อัตราการไหล และสเปคของระบบของคุณ
เมื่อคุณมีไส้กรองกระบวนการที่เหมาะสมแล้ว สิ่งสำคัญคือการทราบว่าจะนำไปใช้ในขั้นตอนใดของกระบวนการทำให้บริสุทธิ์
เรามาดูรายละเอียดกันว่าไส้กรองกระบวนการถูกนำไปใช้ในส่วนใดของกระบวนการโดยรวม:
- การกรองขั้นต้น: ในขั้นตอนนี้ สิ่งเจือปนขนาดใหญ่จะถูกขจัดออก เช่น จากน้ําบ่อ โดยทั่วไปแล้วจะใช้ถุงกรองในที่นี้
- การกรองขั้นสุดท้าย: ขั้นตอนนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าตัวกรองเมมเบรนแบบปลอดเชื้อจะขจัดสิ่งเจือปนที่ละเอียดที่สุด เช่น จุลินทรีย์ในน้ําที่ใช้ในกระบวนการ
ประสิทธิภาพการกรอง: ขนาดและประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาค
แง่มุมที่สําคัญอื่นๆ ได้แก่ ขนาดการดักจับอนุภาคและประสิทธิภาพของตัวกรอง
ขนาดการดักจับอนุภาคแสดงถึงขนาดของสิ่งเจือปนที่ไส้กรองกระบวนการถูกออกแบบมาเพื่อกักเก็บไว้
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการน้ําที่ปราศจากอนุภาค คุณสามารถเลือกองค์ประกอบตัวกรองที่มีขนาดการดักจับอนุภาค 5μm ได้ น้ําที่กรองด้วยสิ่งนี้ควรไม่มีอนุภาคที่มองเห็นได้อีกต่อไป
หากคุณต้องการน้ําปราศจากเชื้อ เช่น น้ําปราศจากจุลินทรีย์ คุณจําเป็นต้องใช้ตัวกรองเมมเบรนปราศจากเชื้อที่มีขนาดการดักจับอนุภาค 0.2μm หรือเล็กกว่า
ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าแม้แต่แบคทีเรียที่เล็กที่สุด เช่น Brevundimonas diminuta (เส้นผ่านศูนย์กลาง ~0.2 - 0.3μm) จะถูกกักเก็บไว้อย่างน่าเชื่อถือโดยตัวกรองกระบวนการ
เนื่องจากไม่มีกระบวนการกรองที่มีประสิทธิภาพ 100% จึงเป็นสิ่งสําคัญที่จะต้องเข้าใจถึงประสิทธิภาพในการกรอง ซึ่งแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
- ไส้กรองแบบ Nominal: อนุญาตให้มีอนุภาคประมาณ 2% ผ่านไส้กรองไปได้
- ไส้กรองแบบ Absolute: ให้ประสิทธิภาพในการกักเก็บสูงถึง 99.98% — จากอนุภาค 5,000 อนุภาค จะมีเพียงหนึ่งอนุภาคเท่านั้นที่สามารถผ่านไส้กรองไปได้
- ไส้กรองระดับปลอดเชื้อ (Sterile-grade filters): ให้ประสิทธิภาพการกรองสูงสุด โดยพื้นที่ผิวของไส้กรองขนาด 1 ซม² / 0.155 นิ้ว² สามารถกักเก็บแบคทีเรียขนาด 0.2 ไมครอนได้ถึง 10,000,000 ตัว โดยอนุญาตให้มีแบคทีเรียเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่สามารถผ่านไปได้
ปัจจัยเหล่านี้มีความสําคัญเมื่อออกแบบระบบกรองของเหลว
ตัวอย่างเช่น การกรองน้ำดื่มบรรจุขวดมักจะดำเนินการผ่านกระบวนการกรองหลายขั้นตอน
- ไส้กรองแบบลึกขนาด 5 ไมครอนแบบ Nominal ใช้สำหรับกำจัดอนุภาคหยาบ
- ไส้กรองแบบผิวขนาด 1 ไมครอนแบบ Absolute ช่วยปรับการกรองให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น
- ไส้กรองเมมเบรนระดับปลอดเชื้อขนาด 0.2 ไมครอนช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีการกำจัดจุลินทรีย์
คุณสมบัติหลักของตัวกรองกระบวนการ
เมื่อเลือกไส้กรองกระบวนการ ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
- การออกแบบไส้กรอง: ไส้กรองแบบพับ (Pleated filters) มีพื้นที่ผิวมากกว่า ซึ่งช่วยลดความดันต่างระหว่างด้านเข้าและด้านออก และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
- ขนาดการดักจับอนุภาค: กําหนดสิ่งเจือปนขนาดเล็กที่สุดที่ตัวกรองสามารถกักเก็บได้
- ความทนทาน: เลือกตัวกรองกระบวนการที่สามารถทนต่อรอบการฆ่าเชื้อและการทําความสะอาดด้วยสารเคมีได้โดยไม่เสื่อมสภาพ
วิธีเลือกตัวกรองกระบวนการที่เหมาะสม
ในการเลือกตัวกรองกระบวนการที่เหมาะสม ให้พิจารณา:
- ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ: คุณต้องการไส้กรองแบบ Nominal, Absolute หรือระดับปลอดเชื้อ (Sterile-grade)?
- ความเข้ากันได้: ไส้กรองสามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและการสัมผัสกับสารเคมีได้หรือไม่?
- การบํารุงรักษาและต้นทุน: ตัวกรองกระบวนการคุณภาพสูงมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ลดต้นทุนการใช้งานเมื่อเวลาผ่านไป
การเลือกไส้กรองที่เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
เพื่อให้ระบบการกรองมีความน่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามข้อกำหนด การเลือกไส้กรองกระบวนการที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถปรับปรุงระบบและรับประกันการทำงานที่เชื่อถือได้โดยพิจารณาจากข้อกำหนดทางเทคนิค มาตรฐานข้อบังคับ และประสิทธิภาพในการกรอง
ตัวแทนฝ่ายขายของเราพร้อมให้คำแนะนำในประเด็นเหล่านี้ และช่วยออกแบบการติดตั้งระบบของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อไส้กรองอย่างถูกต้อง รวมถึงการเพิ่มช่วงเวลาระหว่างการเปลี่ยนไส้กรอง เพื่อช่วยลดการปล่อย CO₂ และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ที่ Atlas Copco เราสามารถช่วยคุณออกแบบระบบการกรองที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ติดต่อเราเพื่อขอคําแนะนําจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเลือกตัวกรองกระบวนการที่ดีที่สุดสําหรับการใช้งานของคุณ
