ตัวกรองอากาศอัด (Air filter) คืออะไร? และแบบใดที่เหมาะกับคุณ
อากาศที่ผ่านเครื่องอัดอากาศไม่ได้สะอาดหมดจด เช่นเดียวกับอากาศภายนอกทั่วไป อากาศในระบบอัดอากาศของคุณเต็มไปด้วยฝุ่น ละออง และไอระเหยต่างๆ ที่สามารถปนเปื้อนจากกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย รวมทั้งเป็นอันตรายต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์อื่นๆ นั่นทำให้ตัวกรองอากาศ (Air filter) เข้ามามีความสำคัญ การนำระบบการกรองที่มีประสิทธิภาพมาใช้ คือการปรับปรุงคุณภาพอากาศอัดและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบอัดอากาศของคุณไปพร้อมๆ กัน สิ่งที่ควรรู้คือขนาดและประเภทของไส้กรองอากาศที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับคุณภาพของอากาศในการใช้งานหรือในกระบวนการที่คุณต้องการ มาดูกันว่าตัวกรองอากาศ (Air filter) มีกี่ประเภท รวมทั้งคำถามที่คุณอาจสงสัย ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกไส้กรองอากาศที่เหมาะสมสำหรับระบบอัดอากาศของคุณ
ประเภทของเครื่องกรองอากาศอัด (Air filter)
ก่อนอื่นมาดูกันว่าตัวกรองอากาศอัดคืออะไร? ตอบแบบให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เป็นอุปกรณ์เสริมของคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม (Air Compressor) ที่ช่วยกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่ไม่ต้องการและอาจเป็นอันตรายออกจากอากาศอัด ซึ่งสารปนเปื้อนเหล่านี้อาจเป็นฝุ่น ละออง หรือไอระเหย โดยฝุ่นคือของแข็งขนาดเล็ก สิ่งสกปรก อนุภาคโลหะจากการกัดกร่อนของท่อ และละอองเกสร ละอองคือหยดของเหลวขนาดเล็ก เช่น น้ำมันหรือน้ำ ขึ้นอยู่กับประเภทของคอมเพรสเซอร์ และไอระเหยคือของเหลวที่ถูกเปลี่ยนเป็นก๊าซ
ตัวกรองอากาศอัดแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Coalescing filters, Vapor removal filters, และ Dry particulate filters ถึงแม้ตัวกรองอากาศอัดแต่ละประเภทจะให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน นั่นก็คือช่วยกรองสิ่งปนเปื้อนออกจากอากาศอัด แต่ก็ทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป แตกต่างอย่างไรมาดูกันค่ะ
- Coalescing filter เป็นตัวกรองอากาศอัดที่ใช้สำหรับกรองน้ำและละออง ทำหน้าที่ขจัดของเหลว เช่น น้ำ น้ำมัน และละอองออกจากอากาศอัด จะทำการกักสิ่งปนเปื้อนไว้ในตัวกรองอากาศอัดและช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งปนเปื้อนกลับเข้าไปในอากาศอัด แต่ตัวกรองอากาศอัดชนิดนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ มิเช่นนั้นอาจทำให้แรงดันในระบบอัดอากาศลดลงได้ (Pressure drop) ข้อดีของตัวกรองอากาศอัดชนิดนี้คือช่วยขจัดสิ่งปนเปื้อนได้ดีมาก โดยลดระดับอนุภาคลงเหลือเพียง 0.1 ไมครอนและอนุภาคของเหลวลงเหลือเพียง 0.01 ppm
- หากคุณมีงบไม่มากนัก เราขอแนะนำให้คุณใช้ เครื่องดักจับฝุ่นละออง (Mist eliminator) ซึ่งสามารถใช้แทน Coalescing filter ได้ในกรณีที่คุณต้องการกำจัดเพียงสิ่งปนเปื้อนที่เป็นละออง แม้ว่าจะไม่สามารถขจัดสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ให้หมดได้ในคราวเดียว แต่ก็มีโอากาสเกิดแรงดันตกน้อยกว่า Coalescing filter (ประมาณ 1 psi) ทำให้ระบบสามารถทำงานได้ในสภาวะแรงดันที่ต่ำ จึงช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน เครื่องดักจับฝุ่นละออง (Mist eliminator) มักนำมาใช้กำจัดของเหลวและละอองที่เกิดจากการคอนเดนเสทในระบบอัดอากาศแบบหล่อลื่นสกรูด้วยน้ำมัน
- Vapor removal filters หรือ Adsorption filter เป็นตัวกรองอากาศอัดที่ทำหน้าที่กำจัดสิ่งปนเปื้อนที่เป็นละออง ไอน้ำ หรือไอน้ำมัน
- ใช้หลักการทำงานคือการดูดซับ โดยทั่วไปแล้วจะขจัดละอองน้ำมันหล่อลื่น โดยใช้เม็ดถ่านกัมมันต์ (Activated carbon granules) ผ้าคาร์บอนหรือกระดาษในการดูดซับ ตัวกรองชนิดนี้จะทำงานได้ดีหลังจากผ่านมาจากตัวกรองอากาศอัด Coalescing filter มาแล้ว เนื่องจากสามารถดักจับและขจัดสารหล่อลื่นที่อยู่ในรูปของก๊าซได้
- Dry particulate filters หรือ Dust remove filter เป็นตัวกรองอากาศอัดที่ใช้ขจัดฝุ่นละออง หลังจากลมอัดผ่านเครื่องทำลมแห้งแบบดูดซับความชื้นหรือ Adsorption filter ซึ่งสามารถนำมาใช้งาน ณ จุดใช้งานได้เลย ตัวกรองอากาศอัดชนิดนี้ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกับ Coalescing filter
ตัวกรองอากาศอัดอากาศ (ฟิลเตอร์) แบบใดที่เหมาะกับระบบอัดอากาศของคุณ
การใช้งานระบบอัดอากาศในอุตสาหกรรมแต่ละประเภทนั้น ก็มีความต้องการอากาศอัดที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นคอมเพรสเซอร์หรือปั๊มลม (Air compressor) จึงไม่ได้ถูกผลิตมาให้มีสมรรถนะเท่ากันทั้งหมด เราจึงต้องเลือกใช้งานตามความต้องการที่แตกต่างออกไป นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรามีตัวกรองอากาศอัดเป็นอุปกรณ์เสริมเพิ่มทางเลือกเพื่อการดูแลและพัฒนาคุณภาพอากาศอัดอย่างในแต่ละระดับความต้องการของผู้ใช้งาน การเลือกตัวกรองอากาศอัดให้ถูกประเภท เหมาะสมกับระบบอัดอากาศของคุณนั้นจำเป็นต้องรู้ความต้องการใช้งานลมอัดจริงๆ ของคุณ ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมที่คุณใช้งาน หากคุณใช้อากาศอัดเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมยาหรืออาหารและเครื่องดื่ม เป็นไปได้มากว่าคุณจะต้องการคุณภาพอากาศอัดที่สูงกว่าการใช้ลมอัดเพื่อส่งกำลังเครื่องมือลมหรือเติมลมยาง
นอกจากนี้คุณควรถามตัวเองด้วยว่ากระบวนการผลิตลมอัดของคุณได้รับความเสียหายจากน้ำมันที่ปนเปื้อนอยู่ในลมอัดไหม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแยกน้ำหรือน้ำมัน (Oil/water seperator) เครื่องทำลมแห้ง (Air dryer) ฯลฯ หรือยังมีน้ำมันอยู่ในลมอัดหรือไม่ หากอุปกรณ์ของคุณมีความไวต่อน้ำมัน การติดตั้งตัวกรองอากาศอัด Coalescing filter แบบ Inline ซึ่งจะช่วยกำจัดน้ำมันที่เป็นสาเหตุให้อุปกรณ์ในระบบอัดอากาศของคุณเสียหายได้ นอกจากนี้ควรพิจารณาถึงเรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วย เนื่องจากหากมีการใช้พลังงานที่ลดลงก็จะทำให้ค่าไฟในโรงงานลดลงไปด้วย ดังนั้นหากคุณเลือกใช้ตัวกรองอากาศอัดที่มีประสิทธิภาพสูงนอกจากจะสามารถผลิตอากาศที่มีคุณภาพและสะอาดแล้ว (การกำจัดฝุ่นที่มีขนาดน้อยกว่า 0.01 ไมครอน) ยังช่วยลดปัญหาแรงดันตก (Pressure drop) ที่เป็นสาเหตุของการกินพลังงานได้อีกด้วย
เราจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวกรองอากาศอัดอากาศด้วยหรือ (Compressed Air Filter)
ลองตอบคำถามต่อไปนี้ดูจะช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนตัวกรองอากาศอัดหรือยัง?
- คุณใช้งานตัวกรองอากาศอัดนี้มานานแค่ไหน หมดอายุการใช้งานแล้วหรือยัง?
- คุณเคยทำการตรวจสอบคุณภาพตัวกรองอากาศอัดหรือไม่ อากาศอัดที่ผลิตได้มีคุณภาพตามที่คุณต้องการไหม?
- มีค่าแรงดันตก (Pressure drop) ระดับไหน เกินมาตรฐานที่ตั้งไว้หรือไม่?
- แรงดันตก (Pressure drop) ที่เกิดขึ้นเกินกว่าค่าที่โรงงานได้ตั้งไว้หรือไม่
หากคุณตอบคำถามเหล่านี้ว่า “ใช่” นั่นก็แสดงว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนตัวกรองอากาศอัดใหม่ สิ่งสำคัญเลยในการพิจารณาตัวกรองอากาศอัดใหม่คือเรื่องแรงดันตก (Pressure drop) และปัญหาคุณภาพของอากาศอัด เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาแรงดันตก (Pressure drop) อาจมากกว่าการเปลี่ยนตัวกรองอากาศอัดใหม่เสียอีก
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเรา สามารถติดต่อหาเราได้ที่ official line: @atlascopcothailand หรือช่องทาง Facebook.