ยินดีต้อนรับสู่โรงงานอัจฉริยะแห่งอนาคต Smart factory

โรงงานอัจฉริยะแห่งอนาคตจะเป็นอย่างไร คำตอบนั้นจะทำให้คุณมีความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน คำตอบจะช่วยให้คุณคาดการณ์ถึงสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในวันหน้า และคุณจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ในวันนี้ได้อย่างไร 

คนที่สามารถถามคำถามเกี่ยวกับโรงงานอัจฉริยะแห่งอนาคตได้ดีที่สุดก็คือผู้ที่กำลังออกแบบโรงงานอัจฉริยะ อย่างผู้เชี่ยวชาญที่ Atlas Copco ซึ่งอยู่แนวหน้าของเทคโนโลยีอากาศอัดและนวัตกรรมด้านความสามารถในการผลิตมายาวนานหลายทศวรรษ 

นั่นคือเหตุที่เราพูดคุยกับผู้จัดการผลิตภัณฑ์หลายๆ คนของ Atlas Copco เกี่ยวกับสิ่งที่จะมาถึงในอนาคต พวกเขาได้อธิบายถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มี และวิธีที่คุณจะสามารถใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ smart technology นี้เพื่อสร้างความได้เปรียบ 

ถ้าจะสรุปคำตอบของคำถามเริ่มแรกออกมาเป็นคำเดียว นั่นก็คือ “ประสิทธิภาพ”  

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้เวลา พลังงาน วัสดุหรือกระบวนการ โรงงานอัจฉริยะแห่งอนาคตจะให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก 

ส่วนสำคัญของประสิทธิภาพนั้นมาจากความเป็นอัตโนมัติ เครื่องจักรทุกประเภทจากหลากหลายผู้ผลิตจะสามารถ “สื่อสาร” กันได้ และเครื่องจักรจะทราบสิ่งที่ต้องทำด้วยการใช้ข้อมูลจากการควบคุมแบบรวมศูนย์และปัญญาประดิษฐ์

เพื่อแสดงให้เห็นประเด็นนี้ คุณ Ilmir Gareev อธิบายว่าโรงงานคุกกี้อัจฉริยะแห่งอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร และเขาควรจะมีความรู้เป็นอย่างดี ในฐานะผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ระดับโลกของ Atlas Copco ในด้าน IoT (Internet of Things) เขาจัดการปัญหาด้านนี้อยู่ทุกวัน 

บริษัทควรมุ่งเน้นแต่รสชาติของคุกกี้ การผลิตทั้งหมดที่เหลือนั้นควรเป็นเรื่องของโรงงานอัจฉริยะ smart factory 

และในที่สุดแล้ว การผลิตคุกกี้จะเป็นไปตามคำสั่ง อุปกรณ์ทุกชิ้นจะรู้หน้าที่ของตัวเองเมื่อได้รับคำสั่ง ระบบอากาศอัด compressed air จะรับรู้ความต้องการที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงใดๆ และจะไม่ต้องใช้คนในกระบวนการนี้เลยจนกระทั่งคุกกี้ถึงมือผู้บริโภค  

ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นความสำคัญของการควบคุมทั้งระบบที่ล้ำหน้า แทนการควบคุมอุปกรณ์ทีละชิ้น 

การจะเป็นโรงงานที่ “อัจฉริยะ” ได้โรงงานจะต้องมีข้อมูล และต้องมีมากด้วย ในกรณีของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม compressor จะต้องมีข้อมูลความต้องการอากาศอัด compressed air system สภาวะแวดล้อม คุณภาพอากาศอัด compressed air quality ที่ต้องการ การรั่วไหล leaks ของระบบอากาศอัด ฯลฯ ซึ่งเซนเซอร์คือคำตอบสำหรับการรวบรวมกระแสข้อมูลต่อเนื่องอันมีค่านี้

ระบบอัจฉริยะ smart system จะใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมดให้เหมาะสม ซึ่งหมายถึงการเพิ่มความประหยัดและความน่าเชื่อถือ 

“ความรู้คือพลัง … อย่างแท้จริง” คุณ Gareev อธิบายว่าเขาพูดเสริมว่าข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมลดการใช้พลังงานลงอย่างมาก เช่น การตรวจจับการรั่วไหล เป็นต้น ระบบอากาศอัดทั่วไปจะสูญเสียแรงดันไปกับการรั่วไหล 20% ถ้าระบบสามารถตรวจจับได้ และแม้แต่แก้ไขเองได้โดยอัตโนมัติในอนาคต ก็จะช่วยประหยัดพลังงานและเงินได้เป็นจำนวนมาก 

นี่เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม เพราะพลังงานที่ใช้ในโลกทั้งหมดประมาณ 10% ถูกใช้ไปในกระบวนการอากาศอัด 

ถ้าเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมทุกเครื่องประหยัดพลังงานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็จะช่วยลดความต้องการด้านพลังงานและการปล่อยคาร์บอนในโลกลงได้เป็นอย่างมาก

จะได้ข้อมูลนี้มาจากไหน ถ้าคุณใช้เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม Atlas Copco ที่มี SMARTLINK ข้อมูลจะถูกประมวลผลโดยอัตโนมัติ 

อุปกรณ์ทุกชิ้นที่เชื่อมต่อจะส่งจุดข้อมูลมากกว่าพันจุดกลับไปให้ Atlas Copco ทุกชั่วโมง การมีเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีนี้มากกว่าสองแสนห้าหมื่นเครื่อง หมายความว่าจะมีการส่งข้อมูลหลายล้านบิตต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ห้องเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม Compressor แห่งอนาคตทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น 

SMARTLINK จะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อเกิดปัญหากับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม และจะแนะนำวิธีแก้ไขเพื่อให้ผู้ควบคุมดำเนินการอย่างทันท่วงที แต่ถ้าเป็นปัญหาร้ายแรง Atlas Copco พร้อมให้ความช่วยเหลือ 

นี่คือหนึ่งในประโยชน์ของโรงงานอัจฉริยะ smart factory ที่เชื่อมต่อ 

“เรามักรู้สิ่งที่ลูกค้าต้องการมากกว่าตัวลูกค้าเองเสียอีก” คุณ Gareev กล่าว 

ตัวอย่าง เช่น ในโรงงานอัจฉริยะ smart factory แห่งอนาคต ระบบอากาศอัด compressed air system จะสามารถตรวจจับตัวกรองที่กำลังเสื่อมสภาพ และสั่งชิ้นส่วนมาให้ดำเนินการเปลี่ยนโดยที่ไม่ต้องแจ้งเตือนผู้ควบคุมเลย 

“วิธีหนึ่งที่สามารถทำให้ห้องเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม compressor room มีความชาญฉลาดก็คือความสามารถที่จะขอความช่วยเหลือได้แม้ก่อนที่ปัญหาจะเกิด หรือลุกลามใหญ่โต” คุณ Severin กล่าว “การแก้ไขล่วงหน้าอาจกลายเป็นแนวคิดที่สำคัญ” 

ผลิตภัณฑ์ของ Atlas Copco นั้นมีเทคโนโลยีเหล่านี้อยู่แล้ว อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง แต่การมีเทคโนโลยีเหล่านี้อยู่ไม่ได้หมายความเสมอไปว่าลูกค้ากำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ 

ตัวอย่าง เช่น ลูกค้าชอบความสามารถในการตรวจสอบเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมจากระยะไกล พวกเขายังชอบให้มีการแจ้งเตือนถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น และสิ่งเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือได้อย่างแท้จริง แต่นั่นไม่ใช่ประโยชน์ที่แท้จริงของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม compressor ที่เชื่อมต่อ

ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ รวมไปถึงข้อมูลและวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ  

“GA VSDS นั้นเป็นเครื่องที่แสนวิเศษ” คุณ Jan Vansweevelt กล่าว เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนในการออกแบบเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม GA VSDS รุ่นใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก ซึ่งใช้เทคโนโลยีทั้งหลายเหล่านี้มากกว่าเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม compressor ประเภทอื่นใดในท้องตลาด 

“แต่ถ้าติดตั้งไม่ถูกต้อง จะทำให้คุณสิ้นเปลืองพลังงานสูง” คุณ Vansweevelt กล่าว

ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ทุกคนพูดว่าตอนนี้ถึงเวลาอันควรแล้วที่จะ “ใช้ระบบอัจฉริยะ” ด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและการขาดแคลนพลังงานที่รุนแรงยิ่งขึ้น จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมยิ่งที่จะลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ชาญฉลาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น 

“มีแรงผลักดันที่สูงในด้านเทคโนโลยีเพื่อลดการใช้พลังงาน energy reduction technology” คุณ Vansweevelt กล่าว “ค่าใช้จ่ายพลังงานที่สูงจะเป็นแรงจูงใจให้บริษัทต่างๆ พยายามมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเชื่อมต่อจะช่วยเพิ่มคุณค่า”

คุณ Charles Legrand เพื่อนร่วมงานของเขาอธิบายเพิ่มเติม 

มันเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้ Atlas Copco คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ทุกคนเห็นด้วย และภูมิใจในงานของตน 

“นวัตกรรมคือสิ่งสำคัญต่อความก้าวหน้า และเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนพวกเราทุกคนที่ Atlas Copco” คุณ Legrand กล่าว

คุณ Gareev กล่าวว่าเขาคำนึงถึงความยั่งยืน sustainability ซึ่งเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของ Atlas Copco อยู่เสมอ 

“เมื่อเราสร้างหรือออกแบบอะไรซักอย่าง ผมจะคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีก 10-20 ปีข้างหน้า” เขากล่าว “คุณต้องตระหนักในขีดจำกัดของอนาคต ต้องคิดให้กว้าง เช่น อะไรจะเป็นประโยชน์กับลูกค้าของเราในอีก 10-15 ปี” 

ในฐานะของผู้นำตลาดและการสร้างนวัตกรรม มันขึ้นอยู่กับว่า Atlas Copco จะค้นพบโซลูชั่นที่จะช่วยให้การอัดอากาศ compressing air มีความยั่งยืน sustainability ยิ่งขึ้นหรือไม่ 

“ถ้าเราไม่สร้างนวัตกรรม ก็จะไม่มีใครทำ” คุณ Van Gaal กล่าว “และนั่นเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่”

สรุปว่าโรงงานอัจฉริยะ smart factory จะเป็นอย่างไรคือ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ทุกคนเห็นตรงกันว่าจะต้องเป็นระบบอัตโนมัติ automated เชื่อมต่อ อัจฉริยะ และยั่งยืนยิ่งขึ้น sustainable 

ในบางแง่มุม มันจะดูคล้ายกับโรงงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตัวอย่าง เช่น GA VSDS หรือ SMARTLINK อาจดูเหมือนว่าเป็นสิ่งวิเศษเมื่อหลายปีที่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า GA VSDS จะสามารถ “สื่อสาร” กับเครื่องอื่นๆ หรือตอบสนองกับสภาพแวดล้อมของมันได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องพัฒนาอีกมาก 

“เป้าหมายสูงสุดก็คือความเป็นอัตโนมัติ automation ที่สมบูรณ์แบบจนกระทั่งทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้ เช่น การปรับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม Compressor ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์แบบ” คุณ Vansweevelt กล่าว “มันอาจฟังดูง่าย แต่มีหลายเรื่องที่จะต้องพิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลาอีกมากในการทำให้เป็นไปได้” 

ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ Atlas Copco จะเป็นผู้นำเสมอ เรากำลังพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้โรงงานมีความเป็นอัจฉริยะยิ่งขึ้น และมีการผลิตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น