ต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมประกอบด้วยต้นทุนในการซื้อและต้นทุนในการใช้งานตลอดอายุการใช้งาน เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมักจะมีป้ายราคาสูงกว่าแต่มีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่ามาก ซึ่งช่วยประหยัดเงินในระยะยาว อันที่จริง การลงทุนเริ่มแรกถือเป็นส่วนน้อยของต้นทุนการเป็นเจ้าของทั้งหมด ในขณะที่ต้นทุนด้านพลังงานประกอบขึ้นเป็นส่วนใหญ่

แม้ว่าเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะเน้นเรื่องประสิทธิภาพ แต่การเลือกรุ่นที่เหมาะสมก็ยังมีความสำคัญ นั่นหมายความว่าผู้ซื้อต้องตระหนักถึงความต้องการอากาศอัด (compressed air) ก่อน

คำตอบของคำถามเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดขนาดในอุดมคติของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมไม่ว่ารุ่นที่มีการขับเคลื่อนด้วยความเร็วรอบ VSD จะดีกว่า (สำหรับความต้องการอากาศที่ผันผวน) และเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมแบบลูกสูบ (piston compressor) จะเพียงพอหรือไม่ (สำหรับการใช้งานต่อเนื่องและความต้องการลมที่จำกัด) หรือเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมแบบโรตารี่ (rotary screw compressor) 

หากคุณภาพอากาศมีความสำคัญ เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมแบบไร้น้ำมัน (oil-free compressor) ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม หากแอปพลิเคชั่นต้องการอากาศแห้ง ควรติดตั้งเครื่องเป่าลมแห้ง dryer 

ตัวเลือกทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเหตุใดการได้คำตอบล่วงหน้าจึงสำคัญ ตัวอย่างเช่น สามารถติดตั้งเครื่องเป่าลมแบบย้อนหลังได้ แต่จะมีราคาที่แพงกว่า 

เมื่อคุณเลือกเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและตรงกับความต้องการของคุณแล้ว ภารกิจต่อไปคือการลดต้นทุนการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก คุณมีตัวเลือกค่อนข้างน้อย พึงระลึกไว้เสมอว่าความบริสุทธิ์ของอากาศที่ส่งออกไปไม่เพียงแต่สำคัญเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณภาพของอากาศที่รับเข้ามาด้วย

ยิ่งอากาศบริสุทธิ์ยิ่งดี ตัวอย่างเช่น หากวางเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมไว้ในบริเวณที่อากาศเข้าปนเปื้อนหรือมีฝุ่น อนุภาคเหล่านั้นจะเข้าไปในอุปกรณ์และจำเป็นต้องใช้ตัวกรองเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศอัดไหลผ่าน และตัวกรองแต่ละตัวจะเพิ่มค่าบำรุงรักษาและส่งผลให้แรงดันตก กล่าวคือ เพิ่มค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของคุณ

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องวางเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมไว้ในบริเวณที่มีการควบคุมสารปนเปื้อนในอากาศให้เหลือน้อยที่สุด อุณหภูมิแวดล้อมก็มีความสำคัญเช่นกัน อุณหภูมิขาเข้าของอากาศที่เพิ่มขึ้น 5 องศาเซลเซียสจะลดประสิทธิภาพของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมลง 2% และการสูญเสียประสิทธิภาพนั้นเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

อีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมของคุณคือการลดแรงดันในระบบจ่ายน้ำมันลง 1 บาร์ (14.5 psi) ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 7% หากแอปพลิเคชั่นของคุณสามารถทำงานได้ที่แรงดันต่ำ นี่เป็นมาตรการง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดค่าไฟฟ้าของคุณให้มากขึ้น วิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำเช่นนี้คือการใช้ตัวควบคุมส่วนกลางสำหรับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมและเครื่องทำลมแห้ง (dryer) ทั้งหมด ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตั้งค่าการผสมผสานเครื่องจักรที่เหมาะสมที่สุดและลดการใช้พลังงาน ตัวควบคุมดังกล่าวยังสามารถจับคู่กับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ช่วยให้คุณตรวจสอบระบบอัดอากาศได้จากทุกที่และปรับให้เหมาะสมตามต้องการ

เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมสร้างความร้อน ธุรกิจส่วนใหญ่ปล่อยให้ความร้อนนี้กระจายไปโดยเร็วที่สุดเพื่อลดอุณหภูมิแวดล้อม แต่มีอีกวิธีหนึ่ง: แทนที่จะปล่อยให้เสียเปล่า การติดตั้งระบบกู้คืนพลังงานจะช่วยให้คุณสามารถกู้คืนและนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้มากถึง 90% ของพลังงานที่จำเป็นต่อการทำงานของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม

ดังนั้น อย่าปล่อยให้ความร้อนหายไปในอากาศบางๆ ให้ใช้เพื่อให้ความร้อนแก่อาคาร น้ำ หรือไอน้ำแทน