ค่าใช้จ่ายในระบบอัดอากาศ

พลังงานไฟฟ้าถือเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมผลิตอากาศอัด เนื่องจากในระบบอัดอากาศจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากในกระบวนการผลิตอากาศอัด หากคุณติดตั้งระบบอัดอากาศจำนวนมากเกินความจำเป็นจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานและที่สำคัญคือไม่ได้ใช้ประโยชน์ ดังนั้นการกู้คืนนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (energy recovery) การลดปริมาณแรงดัน (pressure reduction) การซ่อมแซมรอยรั่ว (leakage reduction)  และการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานโดยการเลือกใช้ขนาดเครื่องอัดอากาศให้เหมาะสมตลอดจนเลือกระบบควบคุม เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณประหยัดพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นสาเหตุหลักของค่าใช้จ่ายและต้นทุนในระบบอัดอากาศ 

เมื่อเราวางแผนว่าเราจะลงทุนซื้อเครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) เครื่องใหม่ สิ่งสำคัญคือเราควรคำนึงถึงการใช้ในงานระยะยาวและประเมินผลกระทบที่ในอนาคต รวมทั้งคำนึงถึงปริมาณการใช้อากาศอัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการติดตั้งระบบอัดอากาศ ตัวอย่างเช่น ขนาดและสถานที่ตั้งเครื่องอัดอากาศ  ความต้องการประหยัดพลังงาน การเพิ่มคุณภาพและมาตรฐานในการผลิตและการขยายการผลิตในอนาคต  

ค่าไฟที่ใช้ในระบบอัดอากาศ (compressed air system) เป็นอะไรที่เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการติดตั้ง  การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระบบอัดอากาศนั้นต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อมด้วย สิ่งสำคัญคือเราต้องหาวิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุดและสอดคล้องกับความต้องการด้านประสิทธิภาพและคุณภาพตลอดจนช่วยลดการใช้พลังงาน ดังนั้นการลงทุนค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบอัดอากาศจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเวลาผ่านไปในระยะยาว 

เนื่องจากปริมาณการใช้ไฟในระบบอัดอากาศคิดเป็นประมาณ 80% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ดังนั้นเราจึงควรดูแลและเลือกระบบอัดอากาศให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งหากความแตกต่างระหว่างระบบควบคุมที่มีอยู่นั้นสูงเกินกว่าเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมที่คุณมี ยกตัวอย่างสถานการณ์เช่น การนำเครื่องอัดอากาศที่มีกำลังการผลิตเต็มกำลังมาประยุกต์ใช้กับงานระบบอัดอากาศทั่วไปที่จำเป็นต้องใช้อากาศอัดในกระบวนการผลิต จะทำให้คุณสิ้นเปลืองพลังงานโยใช่เหตุ เนื่องจากเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมส่วนใหญ่มาพร้อมกับระบบควบคุมและตัวควบคุมออนบอร์ดในตัว ดังนั้นการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับควบคุมร่วมกับคอมเพรสเซอร์อื่น ๆ (shared control) จะช่วยให้คุณประหยัดพลังงานได้มากขึ้น  

การควบคุมความเร็ว (Speed regulation) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยประหยัดพลังงานได้จริง และเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีเราจึงต้องมีการพิจารณาและวางแผนถึงความต้องการในการใช้งานอากาศอัดเพื่อเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ช่วงกลางคืนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์หากคุณใช้อากาศอัดในปริมาณเพียงเล็กน้อย คุณอาจจะติดตั้งเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมขนาดเล็กก็เพียงพอเนื่องจากมีราคาถูกเหมาะกับการใช้งานในช่วงที่มีความต้องการลมอัดไม่มาก  

ด้วยเหตุผลบางประการ ดังนั้นการใช้งานอากาศอัดบางชนิดจำเป็นต้องใช้แรงดันที่ต่างกัน ซึ่งความต้องการอากาศอัดตรงนี้จำเป็นต้องได้รับการวิเคราะห์เพื่อหาว่ากระบวนการผลิตอากาศอัดควรจะมีศูนย์รวม (centralization) ที่ห้องควบคุมกลางระบบอัดอากาศ หรือว่าควรจะแยกห้องตามระดับความดันที่แตกต่างกัน นอกจากนี้การเลือกติดตั้งระบบอัดอากาศยังสามารถพิจารณาได้จากการแบ่งพื้นที่การติดตั้งออกเป็นตามการใช้งาน โดยพิจารณาจากช่วงที่ปิดเครื่องในเวลากลางคืนและช่วงวันหยุดที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อลดการใช้อากาศหรือจัดสรรค่าใช้จ่ายภายในตามการวัดการไหลของอากาศ  (airflow measurements)