ทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของอากาศอัด

ต้นทุนที่ใช้ในการลงทุนนั้นจะคงที่ ซึ่งรวมถึงราคาซื้อ ค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน การติดตั้ง และประกันภัย โดยจะกำหนดต้นทุนในการลงทุนจากทั้ง ระดับคุณภาพของอากาศอัด ระยะเวลาการคิดค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ประกอบด้วยระยะเวลาการทำงานต่อปี ระดับของการเดิน/หยุดเครื่อง และต้นทุนด้านพลังงานของหน่วย

เมื่อ ลงทุนในอุปกรณ์ชิ้นใหม่ คุณควรพิจารณาทั้งความต้องการในปัจจุบันและการขยายกิจการที่วางแผนไว้ คุณยังจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการติดตั้งระบบเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม รวมถึงกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม โอกาสในการประหยัดพลังงาน ความต้องการในการผลิต และการเติบโตที่วางแผนไว้

การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องพึ่งพาอากาศอัด หากคุณทำงานในอุตสาหกรรมที่กำลังพัฒนา การผลิตจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ซึ่งรวมถึงสภาพการทำงานด้วย..

จากประสบการณ์ของเรา การวิเคราะห์ อย่างละเอียดถี่ถ้วนและเป็นกลางเกี่ยวกับความต้องการในการดำเนินงานของคุณจะช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้เป็นอย่างมาก ดังนั้น การจ่ายอากาศอัดของคุณให้ตรงกับความต้องการที่แท้จริงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่ยังเหลือที่ว่างสำหรับการขยายในอนาคต

ด้านล่างนี้คือรายการส่วนประกอบต่างๆ ที่คุณจะพบ และผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายโดยรวมของระบบอากาศอัด

• เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม - นี่คือตัวเครื่อง ตามที่ระบุไว้ข้างต้น ราคาเริ่มต้นจะคิดเป็นมูลค่าเพียงเล็กน้อยของต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวม เนื่องจากพลังงานจะเป็นค่าใช้จ่ายโดยรวมส่วนใหญ่ การลงทุนในเครื่องที่มีประสิทธิภาพสุดจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

• ไดรเออร์และตัวกรองอากาศ - ส่วนประกอบเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่ละเอียดอ่อน เช่น อาหารและยา เพราะมันเป็นเรื่องของคุณภาพอากาศ คุณควรเลือกโซลูชั่นที่เหมาะกับอุตสาหกรรมของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าจะเป็นไปตามมาตรฐาน

• ท่อระบาย - การระบายแบบ Zero-loss อัจฉริยะจะระบายการควบแน่นที่สะสมของระบบอากาศอัดเมื่อจำเป็น วิธีนี้จะช่วยประหยัดพลังงาน ต่างจากท่อระบายน้ำทิ้งแบบตั้งเวลาที่กำหนด ซึ่งจะทำงานแม้จะไม่มีการควบแน่น 

• ระบบท่อ - ระบบท่อที่เพียงพอจะช่วยขจัดข้อจำกัดทางด้านอากาศ แรงดันตก และสามารถลดการรั่วของอากาศได้

• ถังลม - ปัญหาสำคัญคือการใช้ถังลมในการจัดเก็บอากาศอัด หากถังลมมีขนาดเหมาะสมก็จะช่วยขจัดความต้องการที่ไม่ได้ใช้จริงในระบบอากาศอัดของคุณ และความต้องการเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมเพิ่มเติม นอกจากนั้น มันยังช่วยลดการเปลี่ยนแปลงแรงดันของระบบอีกด้วย 

• การรั่วซึมของอากาศ - แม้ว่าจะสามารถกำจัดส่วนที่หย่อนประสิทธิภาพออกไปได้หลายอย่างก่อนที่ระบบจะเริ่มทำงาน แต่การตรวจสอบอุปกรณ์อย่างต่อเนื่องนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรวมถึงการตรวจจับและการซ่อมแซมอากาศรั่วที่มีค่าใช้จ่ายสูง

• ตัวควบคุมส่วนกลาง - ในระบบที่มีเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมมากกว่าหนึ่งตัว ตัวควบคุมส่วนกลางจะมีบทบาทสำคัญ เพราะสามารถลดแถบแรงดันเฉลี่ย ควบคุมกำลังการผลิตและความเร็วของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม 

• การนำพลังงานมาใช้ใหม่ - ความร้อนเหลือทิ้งส่วนใหญ่ของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมนั้นสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และใช้ในส่วนอื่นๆ ของการทำงานได้ เช่น การทำความร้อนกับห้อง น้ำ หรือกระบวนการผลิต

การนำแนวคิดเกี่ยวกับความต้องการด้านพลังงานโดยรวมมาใช้ในการคำนวณนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาส่วนประกอบทั้งหมดเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม รวมถึง ตัวกรอง inlet พัดลม เครื่องทำลมแห้ง ตัวแยก และการนำพลังงานมาใช้ใหม่ วิธีที่ดีที่สุดในการเปรียบเทียบตัวเลือกต่างๆ ก็คือการใช้ มาตรฐาน ขององค์การระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐาน (ISO)

แรงดันในการทำงาน จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความต้องการการใช้พลังงาน แรงดันที่สูงขึ้นหมายถึงการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น การเพิ่มแรงดันขึ้น 1 บาร์จะต้องใช้พลังงานเพิ่มประมาณ 8% การเพิ่มแรงดันการทำงานเพื่อชดเชย แรงดันตก จะลดทอนประสิทธิภาพลงทุกกรณี

โดยทั่วไปแล้ว แรงดันตกเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากการมีระบบท่อไม่เพียงพอ หรือตัวกรองอุดตัน แนะนำให้ตรวจสอบปัจจัยเหล่านี้ก่อนที่จะเพิ่มแรงดันเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม การติดตั้งที่มีตัวกรองหลายตัวอาจทำให้แรงดันตกได้มากและมีค่าใช้จ่ายสูง หากไม่แก้ไขปัญหาดังกล่าว

ในการติดตั้งจำนวนมากนั้นไม่สามารถใช้วิธีลดแรงดันขนาดใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ อุปกรณ์ควบคุม ที่ทันสมัยจะช่วยลดแรงดันจริงลงได้ 0.5 บาร์ วิธีนี้จะช่วยประหยัดพลังงานได้เล็กน้อย ถึงแม้จะดูว่าไม่มาก แต่การลดลงนี้จะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายรายปี

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานนั้นเป็นปัจจัยสำคัญต่อต้นทุนโดยรวมของอากาศอัด ซึ่งอาจมากถึง 80% ของต้นทุนการเป็นเจ้าของและการใช้งานระบบอากาศอัด ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญกับโซลูชั่นที่ประหยัดพลังงานที่สุดที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้

แม้ว่าอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดจะต้องการการลงทุนครั้งแรกที่สูงกว่า แต่ก็มักคุ้มค่ามากกว่าจากการประหยัดโดยรวม สถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือเมื่อความจุของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมสอดคล้องกับความต้องการในการใช้อากาศของคุณ นอกจากนี้ยังมีตัวปรับความเร็วรอบมอเตอร์ (VSD) เพื่อตอบสนองความต้องการระดับแรงดันที่หลากหลาย

เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมส่วนใหญ่มาพร้อมกับระบบควบคุมและกำกับดูแลในตัวเครื่อง หากคุณใช้งานมากกว่าหนึ่งเครื่อง คุณสามารถเพิ่มการตรวจสอบระยะไกลและ การควบคุมส่วนกลาง ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทั้งระบบ และช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะทำงานที่ประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเหตุนี้ การควบคุมความเร็วมอเตอร์ จึงเป็นวิธีการประหยัดพลังงานที่ได้รับความนิยมเนื่องจากศักยภาพที่สูง

เครื่องมือการตรวจสอบบางอย่างยังสามารถระบุพื้นที่ที่หย่อนประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในการระบุการรั่วไหล การสึกหรอของอุปกรณ์ การกรองประสิทธิภาพต่ำ และการกำหนดค่าส่วนประกอบไม่ถูกต้อง ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ปัญหาเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุให้ต้นทุนโดยรวมของระบบอากาศอัดเพิ่มขึ้นได้

บ่อยครั้ง ที่ในการผลิตกระแสอากาศที่อัดนั้นอาจมีการรั่วซึมที่สูงถึง 20% และการรั่วซึมนั้นยังมีความสัมพันธ์กับแรงดันทำงาน วิธีหนึ่งในการซ่อมบำรุงก็คือการซ่อมอุปกรณ์ที่รั่วซึมและลดแรงดันการทำงาน การลดแรงดันลงเพียง 0.3 บาร์จะช่วยลดการรั่วซึมลงได้ถึง 4% ถ้าในการติดตั้งขนาด 100 m3/min มีการรั่วซึม 12% การลดนี้จะช่วยประหยัดลงได้ประมาณ 3 kW

คุณควรพิจารณาความเหมาะสมเมื่อใช้งานอุปกรณ์จริง หากมีการใช้อากาศที่อัดปริมาณน้อยในช่วงกลางคืนและสุดสัปดาห์ คุณควรติดตั้งเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมขนาดเล็กสำหรับช่วงเวลาเหล่านี้ ซึ่งสามารถทำการแบ่งส่วนแบบนี้ได้โดยใช้วาล์วตัด 

หากการใช้งานนั้นต้องการแรงดันทำงานระดับที่แตกต่างกัน คุณจะต้องพิจารณาเลือกว่า การผลิตแบบรวมศูนย์หรือแบบแยกส่วน จะเหมาะสมกว่ากัน การแยกออกจากเครือข่ายอากาศอัดนั้นยังมีประโยชน์ในแง่ของการแบ่งส่วนระหว่างเวลาการใช้งานสูงสุดและต่ำสุด ควรอิงการวางแผนดังกล่าวกับ การวัดการไหลเวียนของอากาศ

การใช้ ระบบควบคุมหลักที่ทันสมัย ตามที่อธิบายไว้ข้างต้นจะช่วยให้เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมส่วนกลางของโรงงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับสถานการณ์ต่างๆ การเลือกวิธีการควบคุมที่เหมาะสมจะช่วยประหยัดพลังงานเนื่องจากใช้แรงดันระบบโดยรวมลดลง และใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การควบคุมเหล่านี้ยังจะช่วยลดเวลาการหยุดทำงานได้ด้วยการกระจายปริมาณงานออกอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ การควบคุมจากส่วนกลางยังช่วยให้คุณสามารถตั้งโปรแกรมการลดแรงดันโดยอัตโนมัติในช่วงเวลาการใช้งานต่ำสุด เช่น ช่วงกลางคืนและสุดสัปดาห์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้อากาศอัดที่ไม่คงที่ การติดตั้งเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมจึงควรมีการออกแบบที่อเนกประสงค์ เช่น ควรใช้เครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมหลายๆ เครื่องที่มี capacity ต่างกัน และมีตัวตรวจสอบควบคุมความเร็ว

สามารถนำพลังงานที่สิ้นเปลืองของเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมดหรือบางส่วนเพื่อทดแทนพลังไฟฟ้าภายนอก ก๊าซ หรือน้ำมันเพื่อทำความร้อน ปัจจัยที่เป็นตัวตัดสินนั้น ได้แก่ต้นทุนด้านพลังงานเป็น €/ kWh ระดับการใช้งาน และมูลค่าของเงินที่ต้องลงทุนเพิ่ม

ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ที่ได้รับการวางแผนมาอย่างดีมักจะช่วยคืนทุนให้ภายใน 1-3 ปี พลังงานกว่า 90% ที่จ่ายให้กับเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในรูปของความร้อนที่มีประโยชน์ ระดับอุณหภูมิของพลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่จะเป็นตัวกำหนดพื้นที่ใช้งานที่เป็นไปได้ และคุณค่าของพื้นที่นั้น

โดยทั่วไปแล้วการติดตั้งระบบแบบระบายความร้อนด้วยน้ำจะให้ประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยการเชื่อมต่อน้ำร้อนที่ออกจากเครื่องอัดอากาศและจ่ายไปยังอุปกรณ์ที่ต้องใช้น้ำร้อน ตัวอย่างเช่น การต่อไปยังชุดน้ำที่จ่ายให้กับหม้อต้มความร้อนหรือ boiler

สามารถนำพลังที่สิ้นเปลืองกลับมาใช้ใหม่ได้ตลอดทั้งปี การออกแบบเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลมชนิดต่างๆ จะมีข้อกำหนดเบื้องต้นที่แตกต่างกัน ในสถานการณ์ที่ต้องการอัตราการไหลของความร้อนปริมาณมาก ถึงมากที่สุด ระยะทางการถ่ายเทความร้อนที่ยาว หรือความต้องการที่แตกต่างหลากหลาย คุณยังสามารถนำพลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ไปขายได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ในการติดตั้งเครื่องอัดอากาศหรือปั๊มลม